ในยุคที่การสื่อสารหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นหลัก จึงเกิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีมาเป็นกับดักลวงประชาชน ซึ่งหนึ่งในกับดับที่พบบ่อยก็คือ การอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร โดยมาหลอกเหยื่อว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภาษีต่าง ๆ จนนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งบทความนี้จะช่วยให้คุณได้เข้าใจถึงรูปแบบกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ พร้อมกับการแนะนำแนวทางการป้องกันและรับมือเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในอนาคต
กลยุทธ์ในการหลอกเป็นสรรพากร เสียภาษีปลอม
สร้างสถานการณ์เร่งด่วน
- ทำการติดต่อหาเหยื่อเพื่อแจ้งว่าพบปัญหาทางด้านภาษี เช่น มีการยื่นภาษีผิด ค้างชำระภาษีสรรพากร
- พร้อมข่มขู่ให้เหยื่อกลัวหากไม่ทำตาม เช่น ถูกยึดทรัพย์สินทันที ถูกดำเนินคดี บัญชีธนาคารถูกระงับ
- เมื่อเหยื่อได้ฟังก็เกิดความเร่งรีบและทำตามด้วยความกลัว จนขาดการคิดหรือตรวจสอบก่อน
ปลอมตัวตนคล้ายสรรพากร
- อ้างชื่อและตำแหน่งให้ดูน่าเชื่อถือ เช่น ตัวแทนกรมบัญชีกลาง หัวหน้าส่วนกฎหมายและเร่งรัดภาษีอากรค้าง
- สร้างเบอร์โทรคล้ายหน่วยงานสรรพากร จากโปรแกรม Caller ID Spoofing
- ซึ่งทำให้เหยื่อเชื่อว่ากำลังคุยว่าเจ้าหน้าที่รัฐตัวจริง
ส่งเอกสารราชการปลอม
- ส่งเอกสารปลอมเพิ่มความสมจริง เช่น ใบแจ้งหนี้กรมสรรพากร หนังสือแจ้งเตือนหนี้ภาษี หนังสือคำสั่งยึดทรัพย์สิน
- และเพื่อให้ดูเหมือนเอกสารจากหน่วยงานรัฐก็จะมีโลโก้ของกรมสรรพากรติดอยู่ด้วย
หลอกขอข้อมูลส่วนตัว
- จะอ้างขอข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในการตรวจสอบหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิตธนาคาร
- ซึ่งจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น เปิดบัญชีม้า ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย เข้าถึงข้อมูลทางการเงิน
ข่มขู่ให้โอนเงินด่วน
- หลอกลวงให้โอนเงินหรืออ้างชำระค่าบริการต่าง ๆ เช่น ค่าปรับภาษี ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเอกสาร การจ่ายเงินเพื่อปิดคดีความ
- โดยบัญชีที่ให้โอนเงินไปจะเป็นบัญชีม้าหรือบัญชีผิดกฎหมายที่จับตัวถึงต้นต่อได้ยาก
- ซึ่งจะให้จะทยอยให้โอนเงินเรื่อย ๆ จนเงินหมดบัญชี
ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- มีการนำโปรแกรม Robocall หรือการโทรแบบอัตโนมัติมาใช้ในการแจ้งปัญหาเหยื่อเบื้องต้น หากเหยื่อทำตามก็จะนำไปสู่การพูดคุยกับคน
- พร้อมกับมีเทคโนโลยีสร้างน้ำเสียงทำให้เหยื่อฟังแล้วเหมือนคำพูดองค์กรรัฐ
รูปที่ 1: อธิบายถึงกลยุทธ์ในการหลอกเป็นสรรพากร เสียภาษีปลอม
ตัวอย่างข่าวที่เกิดขึ้น
แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นสรรพากร
หลอกแม่ค้าขายข้าวต้มกดลิงก์ปลอม สูญเงินถึง 6 แสนบาท
รายละเอียด
- เจ้าของร้านข้าวต้มในจังหวัดนนทบุรี ถูกมิจฉาชีพโทรมาหลอกอ้างตัวเป็นกรมสรรพากร
- โดยแจ้งว่าเหยื่อส่งข้อมูลเสียภาษีไม่ครบ จะต้องทำการกรอกและยืนยันข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์ที่ทางมิจฉาชีพให้มา
- ด้วยความกลัวเหยื่อจึงรีบทำตามและมิจฉาชีพก็ติดตั้งแอปบนมือถือเหยื่อทันที
- จากนั้นทำทีตรวจสอบแล้วแจ้งเหยื่อว่าได้รับสิทธิได้เข้าโครงการคนละครึ่งของรัฐและไม่ต้องเสียภาษีแล้ว
- ซึ่งระหว่างพูดคุยก็มีการโอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อถึง 6 แสนบาท โดยที่เหยื่อไม่ทันรู้ตัว
- เมื่อเหยื่อกลับมาดูบัญชีธนาคารก็พบว่าเงินหายไปหมดแล้ว จึงรีบแจ้งธนาคารแต่ก็ไม่สามารถดึงเงินกลับได้แล้ว
- จึงไปแจ้งความกับทางตำรวจ และเตือนคนอื่นว่าให้ระวัง อย่าเปิดข้อมูลส่วนตัวหรือกดลิงก์ผ่านโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าเด็ดขาด
รูปที่ 2: อธิบายถึงข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นสรรพากร หลอกแม่ค้าขายข้าวต้มกดลิงก์ปลอม สูญเงินถึง 6 แสน
แนะนำวิธีสังเกตและเอาตัวรอด
ลักษณะของการติดต่อ
- หากมีการโทรแจ้งเกี่ยวกับเรื่องภาษี และขอให้กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือบังคับชำระเงินทันที ให้ตัดสินได้เลยว่าเป็นผู้ไม่หวังดี
- เนื่องจากเจ้าหน้ารัฐไม่มีอำนาจในการบีบบังคับโอนเงินหรือติดต่อแจ้งข้อหาทางโทรศัพท์
ตรวจสอบเบอร์แปลกก่อนทุกครั้ง
- หากได้รับสายจากเบอร์แปลกที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร จะต้องโทรตรวจสอบไปที่กรมสรรพากรก่อนทุกครั้ง
- ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เบอร์สายด่วนกรมสรรพากร 1161
ตั้งสติ ไม่หลงกลคำลวงมิจฉาชีพ
- ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์หรือออนไลน์
- ไม่โอนเงินให้กับบัญชีที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
- หากได้รับการข่มขู่ให้ทำการจดข้อมูลไว้ให้ได้มากที่สุด เช่น ชื่อ-นามสกุล หน่วยงานที่อ้าง หมายเลขที่โทรเข้ามา
- พร้อมกับแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปที่ทางหน่วยงานรัฐทันที เช่น สายด่วนตำรวจ 191 หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ 1441
รูปที่ 3: อธิบายถึงการแนะนำวิธีสังเกต และเอาตัวรอดจากการหลอกเป็นสรรพากร
คลิป
จากบทความดังกล่าว เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการหลอกอ้างตัวเป็นสรรพากรมากขึ้น เราจึงมีวิดีโอข่าวที่เกี่ยวกับแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกเป็นสรรพากรแล้วให้เหยื่อโอนจนเกลี้ยงบัญชีมาให้ได้รับชมกัน
สรุป
พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกว่าเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร จะใช้กลลวงหลอกเหยื่อด้วยการข่มขู่เกี่ยวกับเรื่องการเสียภาษีปลอม ซึ่งจะอ้างว่าเหยื่อค้างชำระภาษีหรือมีปัญหาในการยื่นภาษี โดยจะให้เหยื่อโอนเงินหรือข้อมูลส่วนตัวไป ซึ่งจะอ้างว่าเพื่อใช้ในการตรวจสอบต่าง ๆ แล้วนำไปข้อมูลไปใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายและขโมยเงินจากบัญชีเหยื่อนั่นเอง ดังนั้นการติดตามข่าวสารและรู้วิธีรับมือและป้องกันพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
Credit:
https://www.amarintv.com/news/social/163289
https://www.thairath.co.th/news/society/2599238