ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้การพบรักกลายเป็นเรื่องง่าย มิจฉาชีพจึงใช้โอกาสนี้ในการสร้างกับดักลวงเหยื่อผ่านแอปหาคู่ โดยเฉพาะกลโกงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนผ่านทองคำ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการเริ่มต้นด้วยการสร้างโปรไฟล์ให้ดูมีความน่าเชื่อถือ พร้อมใช้คำพูดที่หวานหู หลอกเหยื่อให้เกิดความไว้ใจ จากนั้นจะชักจูงให้เหยื่อหลวมตัวลงทุนกับแพลตฟอร์มปลอม ดังนั้นบทความนี้จึงอยากพาคุณไปรู้จักกับกลยุทธ์ของมิจฉาชีพ รวมทั้งวิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออีกด้วย
กลยุทธ์ในการหลอกเทรดทองบนแอปหาคู่
ใช้โปรไฟล์ที่ดูน่าเชื่อถือ
- มีการสร้างรูปโปรไฟล์ที่เห็นแล้วมีเสน่ห์ ดึงดูดเหยื่อ
- ชอบอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจที่เคยประสบความสำเร็จในการเทรดทอง
- พร้อมใช้คำพูดที่ดูมีความรู้ทางด้านการเงินและลงทุน
- รวมทั้งใช้รูปภาพปลอมหรือขโมยมาจากนักเทรดชื่อดัง
สร้างความสัมพันธ์ จนเหยื่อไว้วางใจ
- จะใช้คำพูดที่หวานหูเพื่อเข้าหาเหยื่อและทำการใส่ใจเป็นพิเศษ
- ชอบสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่ทำให้เหยื่อหลงกล เช่น การบอกรักหรือพูดวางแผนอนาคตที่แสนหวานด้วยกัน
- มีการใช้เวลากดดันทางอารมณ์เหยื่อ เช่น อยากสร้างครอบครัวที่จริงจังด้วยกันเร็วๆ
หลอกให้ลงทุนในทองคำ
- ชอบอ้างว่าตัวเองเคยประสบความสำเร็จในการเทรดทอง พร้อมชักชวนเหยื่อให้ลองลงทุนตาม
- รวมถึงทำผลกำไรปลอมจากบัญชีเทรดมาหลอกเหยื่อ เพื่อให้ดูมีความน่าเชื่อถือขึ้น
- บางครั้งมีการแนะนำช่องทางพิเศษที่อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง
สร้างแรงจูงใจและหลอกให้โอนเงิน
- จะหลอกให้เหยื่อเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยก่อน
- จากนั้นจะมีกำไรกลับคืนเล็กน้อย เพื่อให้เหยื่อไว้วางใจ
- หากเหยื่อเริ่มหลงเชื่อ ก็จะเริ่มให้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- พอได้เงินก้อนใหญ่ก็จะทำการปิดบัญชี แล้วหนีไป
- บางครั้งก็อ้างว่าระบบขัดข้อง จึงทำให้ถอนเงินไม่ได้
มีการหายตัวไปหรือหลอกซ้ำอีกครั้ง
- กว่าเหยื่อจะรู้ตัวว่าโดนโกง มิจฉาชีพก็อาจหายตัวไปแล้ว
- และบางครั้งก็อาจกลับจะมาในภายหลังโดยใช้บัญชีใหม่แทน พร้อมสร้างเรื่องใหม่เพื่อขอเงินเพิ่มเติม
รูปที่ 1: อธิบายถึงกลยุทธ์ในการหลอกเทรดทองบนแอปหาคู่
ตัวอย่างข่าวที่เกิดขึ้น
นักต้มตุ๋นหาเหยื่อจากแอปหาคู่
หลอกให้รักแล้วลวงลงทุนเทรดทอง
รายละเอียด
- มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าตนนั้นได้ไปเล่นแอปหาคู่ จึงได้เจอบุคคลหนึ่ง แล้วมีการพูดคุยกัน
- จากนั้นบุคคลดังกล่าวก็มีการชักชวนให้ไปลงทุนในการเทรดทองคำ
- โดยช่วงแรกก็ได้รับเงินกลับมาจริง และบุคคลนั้นก็ใช้คำพูดหว่านล้อมให้เหยื่อลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ
- แต่เมื่อลงทุนเพิ่มไปแล้วกลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้อีกเลย จึงสูญเสียเงินไปถึง 507,000 บาท
- ซึ่งตำรวจก็สามารถจับตัวบุคคลที่ร่วมขบวนการได้ โดยเป็นคนไทยที่รับเปิดบัญชีม้าและอ้างว่าได้ค่าจ้างในการเปิดบัญชี 7,000 บาท
- ตำรวจจึงเร่งสอบสวนและตามล่าหาตัวการต่อไป
รูปที่ 2: อธิบายถึงข่าวนักต้มตุ๋นหาเหยื่อจากแอปหาคู่ หลอกให้รักแล้วลวงลงทุนเทรดทอง
แนะนำวิธีสังเกตและเอาตัวรอด
ไม่หลงเชื่อโปรไฟล์ที่ดูดีเกินจริง
- ควรระวังโปรไฟล์ที่ดูหรูหราและสมบูรณ์แบบเกินไป
- สามารถใช้ Google Reverse Image Search ในการตรวจสอบว่าเป็นรูปภาพที่ถูกขโมยมาหรือไม่
ตั้งข้อสงสัยทุกครั้งที่ได้รับการชวนลงทุน
- ถ้าพบว่ามีการชวนลงทุนในทองคำที่อ้างว่าได้กำไรสูง ให้สงสัยไว้ก่อนว่าผิดปกติ
- และไม่ควรให้ข้อมูลทางการเงินหรือโอนเงินกับคนที่เราเพิ่งรู้จักกันทางออนไลน์
ตรวจเช็คแพลตฟอร์มการลงทุน
- ควรตรวจสอบว่าบริษัทหรือนายหน้าดังกล่าวได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่
- ซึ่งสามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่เพิ่งรู้จัก
- ควรหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัตรเครดิต เลขที่บัญชีธนาคาร
- รวมถึงเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาบัญชีธนาคาร
- เนื่องจากมิจฉาชีพจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการขโมยตัวตน รวมถึงนำไปทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้
ขอความช่วยเหลือทันที หากสงสัยว่าโดนโกง
- หากรู้ตัวว่าโดนถูกหลอก ควรรีบแจ้งตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
- โดยสามารถติดต่อหน่วยงานอย่างศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ได้
รูปที่ 3: อธิบายถึงแนะนำวิธีสังเกตและเอาตัวรอดจากการโดนหลอกเทรดทองบนแอปหาคู่
คลิป
ในวิดีโอข่าวนี้ ได้อธิบายถึงกลยุทธ์ของมิจฉาชีพที่มีการหลอกให้เทรดทองบนแอปหาคู่ รวมถึงแนะนำการเอาตัวรอดจากมิจฉาชีพเหล่านี้
สรุป
กลโกงเทรดทองบนแอปหาคู่เป็นหนึ่งในแผนการที่มิจฉาชีพชอบใช้ในการหลอกลวงเหยื่อ โดยจะอาศัยความรักและความไว้วางใจของเหยื่อที่มีให้มาทำร้ายจนเสียทั้งสภาพจิตใจและทรัพย์สิน ดังนั้นเราควรติดตามข่าวสารแลรู้กลลวงของมิจฉาชีพอยู่เสมอ เพื่อให้ช่วยป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้ได้ และที่สำคัญไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่สวยหรูและการชักชวนลงทุนในสิ่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้เสมอ
Credit