แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นญาติ วิธีสุดฮิตที่หลายคนตกเป็นเหยื่อ

วิธีสุดฮิตที่หลายคนตกเป็นเหยื่อ

การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ทำให้การโทรหากันกลายเป็นเรื่องหนึ่งที่แก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารได้อย่างตรงประเด็น อีกทั้งในปัจจุบันยังมีการพูดคุยผ่านวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถทำได้ทันที แน่นอนเลยว่าสิ่งที่เราใช้กันคือประโยชน์ของนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ในการหาประโยชน์เช่นเดียวกันครับ กับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการหลอกโดยการปลอมเสียงเป็นญาติ หรือ คนรู้จักให้โอนเงิน ซึ่งในบทความนี้ก็จะมาเปิดเผยกลอุบาย พร้อมทั้งวิธีการรับมือของเรื่องนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่พบเจอบ่อย อีกทั้งมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อมากกมายเลยทีเดียวครับ

หลอกว่าเป็นญาติ หรือ คนรู้จัก

  • โทรมาหลอกว่าเป็นญาติ ต้องการเงินด่วนเพื่อการรักษา เกิดอุบัติเหตุอยู่
  • หลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีอื่น ที่ไม่ใช่ชื่อหลาน อ้างว่าจ่ายค่ารักษา
  • สุดท้ายไม่ใช่หลานตัวจริง หรือ คนรู้จัก แต่เป็นมิจฉาชีพ

กลอุบาย

  • อ้างตัวเป็นญาติหรือคนรู้จักที่ไม่ค่อยได้เจอกัน ซึ่งทำเป็นบุคคลนั้นกำลังตกในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • เกิดอุบัติเหตุหรือติดอยู่ในต่างประเทศ
    • ติดปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน การโอนเงินต่าง ๆ ต้องยืมเงินด่วน
    • หลอกให้โอนเงินทันที หรือ รวดเร็วที่สุด
  • หลอกให้เหยื่อโอนเงินด่วน อ้างว่าเป็น
    • รักษาพยาบาล
    • ค่าอาหาร
    • ค่าที่พัก
    • ค่าเดินทาง
    • จะใช้ถ้อยคำน่าสงสารจนเหยื่อใจอ่อน โอนเงินให้
  • บางครั้งอ้างเป็นคนรู้จักหรือเพื่อนเก่า และถามถึงสารทุกข์สุกดิบก่อนที่เข้าจะขอความช่วยเหลือ
  • โดยมักจะติดต่อเหยื่อทางโซเซียลมีเดีย ใช้ชื่อและรูปภาพเดียวกับเพื่อนของเหยื่อ
  • เพื่อให้คำกล่าวอ้างมีน้ำหนักก็มักจะประชุมสายกับผู้ช่วยต่าง ๆ
    • แอบอ้างเป็นโรงพยาบาล
    • ทนายความ
    • เจ้าหน้าที่รัฐ
    • เจ้าหน้าที่พูดถึงการเก็บค่ารักษา หรือ การเก็บเงิน

รูปที่ 1: อธิบายถึงกลอุบบายของ การหลอกในรูปแบบ ปลอมเป็นญาติ คนรู้จัก

ปลอมเป็นเสียงหลาน หลอกเงินกว่า 3 หมื่นบาท

เนื้อหาข่าว

“แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเสียงเป็นหลานสาว หลอกยืมเงินคุณปู่วัย 76 ปี ป่วยโรคไต สูญเงินกว่า 3 หมื่น”

  • แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเสียงเป็นหลานสาว หลอกคุณปู่วัย 76 ป่วยโรคไตและมีรายได้จากการกวาดถนนวันละ 300 บาทเท่านั้น
  • โดยมิจฉาชีพได้แจ้งชื่อ-นามสกุลของหลานได้ถูกต้อง และอ้างว่ามีปัญหาเรื่องเงิน อยากขอยืมเงินคุณปู่ 3 หมื่น
  • ด้วยความสงสารจึงรีบไปกู้เงินนอกระบบมาให้ รวมกับไปยืมคนรู้จัก และนำของที่พอจะมีมูลค่าไปจำนำ ทั้งยังนำเงินเก็บทั้งชีวิตโอนให้กับคนที่อ้างตัวเป็นหลานสาวไป
  • เมื่อมิจฉาชีพได้ไปแล้ว ก็ยังโทรกลับมาขอเพิ่มอีก 2 หมื่น จึงทำให้คุณปู่เริ่มสงสัย เลยไปปรึกษาคนในบ้านให้ติดต่อไปที่หลานสาวตัวจริง จึงได้ทราบว่าคนที่โทรมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่หลานสาวของตน
  • ทำเอาคุณปู่เครียดอย่างมาก ถึงขนาดกินอะไรไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้ทั้งนอกระบบและเงินที่ยืมคนรู้จักมา หนำซ้ำยังตรวจพบว่าตัวเองนั้นเป็นโรคไตระยะที่ 4 พวงด้วยโรคเบาหวานและต่อมลูกหมากอีกด้วย
  • จึงอยากให้ช่วยดำเนินคดีไว ๆ เพื่อนำเงินไปคืนคนที่ยืมมา และเตือนผู้สูงอายุคนอื่น ๆ อย่าหลงเชื่อ ควรจะโทรถามตัวจริงเสียก่อน

รูปที่ 2 : อธิบายถึงข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเสียงเป็นหลานสาว หลอกยืมเงินคุณปู่วัย สูญเงินกว่า 3 หมื่น

วิธีการป้องกัน กลอุบายนี้

  • เมื่อมีเสียงญาติ หรือ คนรู้จักโทรมา ให้ทำการวีดีโอคอลเพื่อยืนยันใบหน้าตรวจสอบจาก
    • ลักษณะท่าทางการพูดคุย
    • การมองสีหน้าว่าเป็นหลานตัวจริงหรือไม่
  • หากเป็นไปได้ตรวจสอบจากคนรู้จักอื่น ๆ เช่น
    • ถ้าเป็นหลาน ให้ตรวจสอบจากผู้ปกครอง
    • ถ้าเป็นเพื่อนให้โทรถามเพื่อนด้วยกันว่าโดนไหม
  • ตั้งสติก่อนตัดสินใจที่จะโอนเงิน หรือ การทำธุรกรรมต่าง ๆ
    • สอบถามคนใกล้ตัว ขอคำปรึกษาได้
  • หากคุณเองมีผู้สูงวัยอยู่ที่บ้าน ใช้โทรศัพท์ได้ แนะนำถึงข้อป้องกันสำหรับกลอุบายนี้ไม่ให้หลงเชื่อ
    • หากมีคนมาแอบอ้างว่าเป็นลูกหลาน ให้โทรหาญาติ หรือ ปรึกษากันในครอบครัวก่อน
  • การยืมเงิน หรือ ขอยืมเพื่อเรื่องเร่งด่วน ให้มองไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
  • ขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามถึงปลายสายที่โทรมา

รูปที่ 3 : อธิบายถึงวิธีป้องกัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาบอกว่าเป็นญาติ

คลิป

โดยบทความนี้พวกเราก็ได้นำคลิปวีดีโอข่าว ที่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ 18 กลโกงบนโลกออนไลน์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มักนิยมใช้หลอกประชาชน พร้อมอธิบายกระบวนการกลโกงต่าง ๆ เพื่อให้รูเท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อพวกโจรเหล่านี้

สรุป

อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็มีการพัฒนาขึ้นมาก ดังนั้นการที่เรารู้เท่าทันวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะทำให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของความสงสาร การเป็นญาติ หรือ คนรู้จัก ก่อนที่จะช่วยเหลือนั้นจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนเสมอ ไม่ควรรีบด่วนตัดสินใจ ทำตามคำสั่งขอใคร สิ่งที่ดีที่สุดคือสังเกตถึงคนใกล้ตัว ถ้าหากว่ามีผู้สูงวัย หรือ คนในบ้านมีพฤติกรรมต้องโอนเงินแปลก ๆ ก็ลองตรวจสอบดูว่ามีปัญหาในด้านนี้จริงหรือไม่

ไม่ควรรีบร้อนในการโอนเงินช่วยเหลือในทันที ตั้งสติ ตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง ชื่อบัญชีที่ทำการโอนเงินจะต้องเป็นชื่อของญาติตัวเองเท่านั้น สุดท้ายนี้ก็คงต้องฝากให้ทุกท่านดูแลคนทางบ้าน หรือ ผู้สูงวัยที่เป็นห่วงลูกหลานอย่างจริงใจจะต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครับ

MD

กลโกงของคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างว่าเป็นญาติ กำลังขาดเงินค่ารักษาพยาบาล หรือ เงินด่วนอื่น ๆ เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้เท่ากันกับกลอุบายเหล่านี้ในบทความนี้

อ้างอิง

https://news.ch7.com/detail/765160

https://www.dailynews.co.th/news/4059369/