แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเหยื่อผ่านโทรศัพท์และช่องทางออนไลน์ โดยมักแอบอ้างตัวเป็นหน่วยงานรัฐหรือองค์กรเอกชนที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกให้เหยื่อบอกข้อมูลส่วนตัวหรือโอนทรัพย์สินให้โดยไม่รู้ตัว การตระหนักถึงภัยคุกคามทางออนไลน์และมีความรู้ในการป้องกันตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแง่มุมเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหลอก และทำไมถึงเป็นภัยในยุคดิจิทัล ไปจนถึงแนวทางที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อปกป้องตัวเองและคนรอบข้างจากภัยร้ายนี้ได้นั่นเองครับ
อะไรคือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”
- แก๊งมิจฉาชีพที่มักหลอกเอาเงินประชาชนผ่านโทรศัพท์
- ชอบอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐหรือบริษัทชื่อดัง
- มักหลอกเพื่อเอาข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร รหัส OTP
- มีกลุ่มเป้าหมายคือคนที่ขาดความรู้และกำลังประสบปัญหาเรื่องนั้น เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ นักเรียน ผู้ที่มีความเดือดร้อนเรื่องเงิน
รูปที่ 1 : อธิบายถึงอะไรคือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”มีกลยุทธ์ และ กลอุบายอะไรบ้าง ?
วิธีการหลอกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
- อ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจ สรรพากร
- แจ้งว่าเหยื่อไปพัวพันกับเรื่องผิดกฎหมาย เช่น การขนยาเสพติด ฟอกเงิน หนี้ภาษี
- มักกดดันเหยื่อให้โอนเงิน อ้างว่าเพื่อตรวจสอบเส้นทางเงิน หากไม่ทำตามจะถูกจับกุม
อ้างเป็นพนักงานธนาคาร
- อ้างว่าบัญชีธนาคารของเหยื่อมีปัญหา เช่น มีการทำธุรกรรมผิดปกติ บัตรเครดิตถูกใช้โดยที่เหยื่อไม่รู้
- มักขอข้อมูลส่วนตัว อ้างว่าเพื่อการตรวจสอบ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร รหัส OTP
- โน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินไปบัญชีธนาคารของผู้ไม่หวังดี อ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของเงินเหยื่อ
อ้างว่าเหยื่อได้รับรางวัลใหญ่
- หลอกเหยื่อว่าได้รับรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่า เช่น เงินรางวัล รถยนต์ ทองคำ
- หากเหยื่อสนใจหรืออยากได้ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก่อน เช่น ค่าโอนเงิน ค่าภาษี
อ้างว่าเป็นบุคคลที่เหยื่อเชื่อถือในชีวิต
- อ้างเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หัวหน้างาน ซึ่งต้องการความช่วยเหลือด่วน
- มักสืบข้อมูลและความเคลื่อนไหวมาจากข้อมูลบนโซเซียลของเหยื่อ
รูปที่ 2 : อธิบายถึงวิธีการหลอกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เหตุผลที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยในยุคดิจิทัล
เทคโนโลยีที่ทันสมัย
- มิจฉาชีพมักมีโปรแกรมที่ปลอมเบอร์โทรให้ดูเหมือนหน่วยงานรัฐ
- มีเทคโนโลยีดัดแปลงเสียง ทำให้ฟังแล้วเหมือนเสียงคนรู้จักหรือบุคคลน่าเชื่อถือ
- สร้างข้อความดึงดูด กระตุ้นความอยากผ่าน SMS หรือเข้าถึงรหัสผ่าน OTP
การเปิดเผยข้อมูลบนโลกออนไลน์
- เหยื่อมักลงข้อมูลส่วนตัวลงบนออนไลน์ เช่น ชื่อจริง วันเกิด เบอร์โทร สถานที่ทำงาน
- ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและความเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น
เหยื่อขาดความรู้และการอัพเดตข่าวสาร
- ขาดความรู้ในการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธี
- ขาดการติดตามข่าวสาร จึงไม่ทันระวังกลโกงใหม่ ๆ ของมิจฉาชีพ
รูปภาพที่ 3 : อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยในยุคดิจิทัล
แนวทางป้องกันและรับมือเมื่อเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ตรวจสอบก่อนทำธุรกรรม
- หากคนที่โทรมาอ้างว่าเป็นหน่วยงาน ให้โทรตรวจสอบไปที่หน่วยงานั้น ๆ ซึ่งต้องไม่ใช่เบอร์ที่บุคคลนั้นให้มา
- ทำการตรวจสอบเว็บไซต์หรือแอพก่อนกด เช่น เว็บไซต์ต้องขึ้นต้นด้วย https:// หรือแอพต้องโหลดผ่าน Google Play
ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับคนไม่รู้จัก
- ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน ที่อยู่
- ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น เบอร์โทร อีเมล
- ข้อมูลด้านการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต รหัส OTP
- ข้อมูลด้านโซเซียล เช่น การเช็คอิน ลักษณะการใช้ชีวิต รูปส่วนตัวหรือครอบครัว
รู้จักหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจไซเบอร์: หน่วยที่ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถโทร 1599 หรือ 191
- หน่วยงาน PCT: หน่วยงานป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถแจ้งที่เว็บไซต์: www.policecybertaskforce.com
- ธนาคารที่เป็นหน่วยงานดูแลบัญชีและบัตรเครดิตต่าง ๆ สามารถแจ้งอายัดได้ทันที
- สำนักงาน PDPA: หน่วยที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล สามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 02-142-3935
รูปที่ 4 : อธิบายถึงแนวทางป้องกันและรับมือเมื่อเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาด อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า หลอกหนุ่มนักเทคนิคการแพทย์ สูญเงินหลักหมื่น
- หนุ่มนักเทคนิคการแพทย์เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาข้อมูลและดูดเงินเกลี้ยงบัญชี 20,497 บาท
- โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า จะมาคืนเงินให้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนมิเตอร์เป็นแบบดิจิทัล และการไฟฟ้ามีนโยบายโอนเงินคืนในช่วงโควิด โดยจะคืนเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ยอดอยู่ที่ 2,497 บาท
- ตอนแรกเหยื่อไม่เชื่อ จึงโทรเช็คกับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่ามีการมาเปลี่ยนหม้อแปลงจริง พร้อมกับโจรก็บอกว่าการไฟฟ้าบริการโทร 24 ชม. เหยื่อจึงหลงเชื่อ
- จากนั้นโจรก็ให้เหยื่อทำการโหลดแอพของ PEA และผ่านไลน์ เมื่อเหยื่อเข้าไปกรอกข้อมูลครบ โทรศัพท์ก็ดับทันที ไม่สามารถเปิดใช้งานได้
- เมื่อเปิดใช้งานได้ก็พบว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อไป 20,497 เหลือติดบัญชีเพียง 97 สตางค์
รูปภาพที่ 5 : อธิบายถึงข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาด อ้างว่าเป็นการไฟฟ้า แสบจริง ๆ
คลิป
สำหรับในบทความนี้พวกเราได้นำคลิปวีดีโอข่าว เกี่ยวกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาด ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าซึ่งมีกลอุบายในการหลอกลวง พร้อมทั้งกลยุทธ์ในการหลอกที่แนบเนียนเหลือเกิน
สรุปภาพรวม
ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและผู้คนส่วนใหญ่มักขาดความรู้เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและพัฒนากลโกงที่แนบเนียนและซับซ้อนได้มากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรจะรู้ทันกลโกงและวิธีรับมือ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกคนเหล่านี้ เพื่อให้สามารถหยุดกลโกงได้อย่างทันท่วงทีและเพิ่มความเกราะป้องกันพวกอาชญากรรมทางออนไลน์ได้มากขึ้น
MD
เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นักหลอกลวงประจำทางโทรศัพท์ บทความนี้จึงรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลอุบายของแก๊งนี้ที่มีการหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
อ้างอิง
https://news.ch7.com/detail/752214
https://tna.mcot.net/latest-news-1416975